Your browser does not support JavaScript!

บริการส่งของด่วนจาก 5 แอพส่งของในกทม. [2024]

By Editor Logisticsbid - 24 มกราคม 2024

express-delivery-service-app

บริการส่งของด่วนถือเป็นบริการที่เราคุ้นเคย มีการใช้อยู่ประจำไม่ว่าจะเพื่อส่งเอกสาร ส่งพัสดุ ส่งของให้ลูกค้า หรือส่งของ ย้ายของทั่วไป ความต้องการของบริการส่งของด่วนได้เติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้บริการส่งของเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทำให้ตลาดแอพส่งของมีการแข่งขันที่ดุเดือด มีผู้ให้บริการหลายเจ้าในตลาดและมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก 5 แอพส่งของในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และให้ข้อมูลในทุกด้านของบริการเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าเจ้าไหนเหมาะกับการขนส่งของคุณ

 

5 แอพส่งของในกรุงเทพฯ ปริมณฑลที่กำลังมาแรง

แอพที่ให้บริการส่งของเราขอนำเสนอคือ Deliveree (เดลิเวอรี) Grab Express (แกร็บเอ็กเพรส) Lalamove (ลาล่ามูฟ) LINE Man (ไลน์แมน) และ Skootar (สกู๊ตตาร์)โดยเป็นบริการเรียกรถส่งของด่วนผ่านแอพ ที่คนขับเข้ารับส่งของถึงที่หรือที่เรียกว่า door-to-door delivery

เรามาทำความรู้จักบริการทั้ง 5 แอพอย่างละเอียด ด้วยการสรุปข้อมูล 10 ด้านหลักของบริการส่งของด่วน คือ ประเภทรถ ความเร็วในการส่ง พื้นที่ให้บริการ บริการเสริม ค่าขนส่ง โปรโมชั่น วิธีการชำระเงิน ฟีเจอร์ ประกันสินค้า และ ฝ่ายบริการลูกค้า พร้อมบทสรุปจุดเด่นของแต่ละแอพ

 

1. Deliveree ส่งของทั่วไทย เหมาะกับการขนส่งทุกขนาด

Deliveree เป็นแอพที่มีประเภทรถให้บริการมากที่สุด โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ประเภทคือ มอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง (ทั้งแบบ 4 และ 5 ประตู) รถกระบะ รถกระบะตู้ทึบ รถเย็น และ รถ 6 ล้อ คุณสามารถเรียกรถ Deliveree เข้ารับของเร็วสุดภายใน 45 นาทีหรือจองรถล่วงหน้าสูงสุด 14 วัน

นอกจากความหลากหลายของประเภทรถแล้ว Deliveree ยังเป็นแอพส่งของด่วนเจ้าเดียวที่ให้บริการให้พื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลักในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสามารถส่งของไปทั่วไทย

ด้วยบริการรถขนาดใหญ่ Deliveree ได้มีบริการเสริมที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการส่งของชิ้นใหญ่และปริมาณมาก เช่น บริการคนขับช่วยยกของและผู้ช่วยยกของ นอกจากนี้ ยังมีบริการดำเนินเอกสารสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในราคาเพียง 40 บาท ให้คุณสามารถช่วยจัดการธุระด้านเอกสาร เช่น นำเช็คเข้าธนคาร หรือ ดำเนินการเอกสารกับหน่วยราชการ

ในส่วนของค่าขนส่ง Deliveree มีคิดตามระยะทางขนส่งและแบบเหมารายวัน ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทรถที่เลือก โดยมีช่องทางในการชำระค่าบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตและเดบิต LINE Pay และ TrueMoney Wallet ด้วยการ Prepay (การชำระเงินล่วงหน้าด้วยการโอนเข้า Wallet ในแอพ) จ่ายด้วยเงินสดกับคนขับ หรือระบบวางบิลสำหรับลูกค้าธุรกิจ ด้วยค่าขนส่งที่ค่อนข้างถูกกว่าเจ้าอื่น Deliveree จะไม่ค่อยปล่อยโปรโมชั่นเท่าไร คุณสามารถตรวจสอบค่าขนส่งทุกประเภทรถได้ที่ตารางด้านล่าง

ประเภทรถราคาตามระยะทางราคาเหมารายวัน (9 ชั่วโมง) กรุงเทพฯ ปริมณฑลราคาเหมารายวัน (8 ชั่วโมง) จังหวัดอื่นๆ
มอเตอร์ไซค์เริ่มต้น 42 บาท950 บาท-
รถเก๋ง (4 และ 5 ประตู)เริ่มต้น 110 บาท1,350 บาท1,200 บาท
รถกระบะ (ปิคอัพ)เริ่มต้น 250 บาท1,800 บาท1,600 บาท
รถกระบะตู้ทึบเริ่มต้น 275 บาท2,000 บาท1,800 บาท
รถเย็นเริ่มต้น 1,100 บาท2,400 บาท-
รถ 6 ล้อเริ่มต้น 1,950 บาท4,750 บาท4,250 บาท
รถ 10 ล้อเริ่มต้น 3,200 บาท6,750 บาท6,000 บาท

 

Deliveree มีฟีเจอร์ดีๆ เช่น ระบบติดตามคบขับระหว่างการส่งของ และมีการยืนยันการรับส่งของในทุกจุดการส่งของด้วยลายเซ็นดิจิทัลและรูปถ่าย สามารถเพิ่มจุดส่งของได้มากถึง 15 จุดในหนึ่งการจองในราคาที่ประหยัดกว่าเจ้าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีประกันสินค้าให้กับทุกการขนส่งสูงสุด 15,000 บาท ฝ่ายบริการลูกค้าสามารถติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 5:00 – 22:00 น.

เราว่าจุดเด่นของแอพ Deliveree คือความหลากหลายของประเภทรถที่ให้บริการ ไม่ว่าจะส่งของขนาดเล็กหรือใหญ่ แอพเดียวเอาอยู่ สามารถส่งของได้ทั่วไทย เหมาะกับลูกค้าธุรกิจหรือร้านค้าที่ต้องส่งของจำนวนมากไปต่างจังหวัด หรือกระจายสินค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และด้วยรถ 6 ล้อ เหมาะกับการย้ายบ้าน ย้ายออฟฟิศ ถือเป็นแอพที่เหมาะกับทุกการขนส่ง

 

2. Grab Express บริการส่งของที่สะดวกและคุ้นเคย

Grab ถือเป็น Lifestyle Application ที่มาพร้อมกับบริการที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้ชีวิต จึงไม่แปลกที่ บริการส่งของในนาม Grab Express นั้นได้ออกแบบมาให้ใช้งานอย่างสะดวกภายใต้แอพของ Grab โดยมีรถอยู่ 4 ประเภทคือ มอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกระบะ และรถกระบะตู้ทึบให้บริการ ประเภทรถที่จะได้ขึ้นอยู่กับการระบุน้ำหนักของที่จะส่ง ซึ่งระบุได้ตั้งแต่ 500 กรัม – 1,000 กิโลกรัม หากเรียกรถ Grab Express จะได้รถเข้ารับส่งของทันที หรือสสามรถเลือกให้ส่งภายใน 2 ชั่วโมง และรับส่งของภายในจังหวัดนั้นๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เชียงใหม่ ขอนแก่น และอีกมากกว่า 60 จังหวัด 

ค่าขนส่งของ Grab Express คิดตามระยะทางขนส่ง และไม่มีบริการเสริมช่วยยกของ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนขับและสามารถส่งได้เพียง 1 จุดส่งต่อการจอง อย่างไรก็ตาม Grab Express มีประกันสินค้าให้ทุกการขนส่งสูงสุด 30,000 บาท และมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าทั้งในรูปแบบการแลกพ้อยและข้อเสนอพิเศษผ่านช่องทางการชำระเงิน ในส่วนนี้ คุณสามารถชำระค่าขนส่งได้ทุกช่องทางของ Grab ไม่ว่าจะเป็น Grab Wallet เงินสด หรือตัดบัตร

ค่าบริการตามประเภทรถ

ประเภทรถค่าบริการเริ่มต้นค่าบริการต่อกม.
มอเตอร์ไซค์28 บาท0 กม. ขึ้นไป 2.5 บาท/กม. 3 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 8 กม. ขึ้นไป 8 บาท/กม.
รถเก๋ง70 บาท0 กม. ขึ้นไป 6 บาท/กม. 5 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 10 กม. ขึ้นไป 9 บาท/กม.
รถกระบะ115 บาท0 กม. ขึ้นไป 6 บาท/กม. 5 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 10 กม. ขึ้นไป 9 บาท/กม.
รถกระบะตู้ทึบ127 บาท0 กม. ขึ้นไป 13 บาท/กม. 100 กม. ขึ้นไป 10 บาท/กม. 150 กม. ขึ้นไป 9.5 บาท/กม.

จุดเด่นของบริการส่งของด่วนของแอพนี้ คือความสะดวกในการใช้งาน เพราะน่าจะเป็นแอพที่หลาย ๆ คนใช้เป็นประจำในส่วนของบริการอื่น และเหมาะกับการส่งของทั่วไปหรือของขนาดเล็ก คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง

 

3. Lalamove ตัวช่วยสำหรับลูกค้า SME และขนส่งทั่วไป

แอพ Lalamove มีความเหมือนแอพ Deliveree ที่เป็นแอพสำหรับบริการส่งของอย่างเดียว แต่มีประเภทรถให้เลือกน้อยกว่า 5 ประเภทคือ มอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง (4 ประตู 5 ประตู และ SUV) รถกระบะ รถกระบะตู้ทึบ และรถ 4 ล้อจัมโบ้ สามารถเรียกรถรับส่งของในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และชลบุรีทันทีหรือเรียกล่วงหน้า 20 นาที 

ด้วยรถหลากหลายขนาด Lalamove มีบริการเสริมให้เลือกตามประเภทรถ เช่น บริการช่วยซื้อและบริการเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง (COD) สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ และบริการยกของโดยคนขับ บริการยกของโดยคนขับและผู้ช่วย 1 คน สำหรับรถ 5 ประตูและรถกระบะตู้ทึบ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มจุดส่งของมากถึง 19 จุดในหนึ่งการจอง และมีประกันสินค้าให้สูงสุด 7,000 บาท

ค่าขนส่ง Lalamove เหมือนเจ้าอื่นๆ คือคิดตามระยะทางขนส่ง ในส่วนของช่องทางการชำระเงิน ลูกค้าสามารถเลือกชำระด้วย Prepay (การชำระเงินล่วงหน้าด้วยการโอนเข้า Wallet ในแอพ) เงินสด และบัตรเครดิต สามารถตรวจสอบค่าขนส่งทุกประเภทรถได้ในตารางด้านล่าง

ประเภทรถค่าบริการเริ่มต้นค่าบริการต่อกม.
รถมอเตอร์ไซค์28 บาท0 กม. ขึ้นไป 2.5 บาท/กม. 3 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 8 กม. ขึ้นไป 8 บาท/กม.
รถเก๋ง70 บาท0 กม. ขึ้นไป 6 บาท/กม. 5 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 10 กม. ขึ้นไป 9 บาท/กม.
รถกระบะ115 บาท0 กม. ขึ้นไป 6 บาท/กม. 5 กม. ขึ้นไป 7 บาท/กม. 10 กม. ขึ้นไป 9 บาท/กม.
รถกระบะตู้ทึบ127 บาท0 กม. ขึ้นไป 13 บาท/กม. 100 กม. ขึ้นไป 10 บาท/กม. 150 กม. ขึ้นไป 9.5 บาท/กม.

 

จุดเด่นของบริการส่งของด่วน Lalamove คือส่วนของแอพที่ใช้งานง่าย ทุกอย่างแสดงอยู่หน้าแรกอย่างชัดเจน และสามารถส่งของได้หลายจุดต่อเที่ยว ซึ่งเหมาะกับลูกค้า SME ที่ต้องการกระจายสินค้าหลายๆ จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และชลบุรี นอกจากนี้ การที่สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้า ฝ่ายบริการลูกค้าสามารถติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00 – 22:00 น.

 

4. LINE Man ส่งด่วนในกรุงเทพฯ

บริการส่งของด่วนของ LINE Man จะอยู่ในบริการ Messgener ของ LINE Man ที่รับส่งของด่วนที่มีขนาดความกว้าง ยาว สูง ไม่เกินด้านละ 40 เซ็นติเมตร หรือหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม

สามารถเรียกมอเตอร์ไซค์รับส่งของได้ในทุกพื้นที่ที่มีบริการ LINE Man

ในส่วนของค่าขนส่ง LINE Man คิดตามระยะทางขนส่งในราคาเดียวกันกับรถมอเตอร์ไซค์ของ Lalamove คือเริ่มต้น 48 บาทบวก ค่าส่งตามระยะทาง 0-30 กิโลเมตร 7.2 บาทต่อกิโลเมตร 31 กิโลเมตร เป็นต้นไป คิดค่าบริการ 14 บาทต่อกิโลเมตร และหากเรียกใช้บริการส่งของช่วงเวลา 00:00 – 06:59 น. จะมีค่าบริการเพิ่ม 100 บาท ต่อการจองรถ และต้องชำระด้วยเงินสดที่คนขับเท่านั้น

LINE Man เป็นแอพส่งของที่เหมาะกับการส่งของชิ้นเล็กและเอกสารด่วน เหมาะกับร้านค้าขายออนไลน์ เช่น ร้านอาหาร ที่ต้องการเรียกรถเข้ารับของและส่งให้ลูกค้าทันที แต่ต้องระวังไม่ส่งของที่อาจเสียหายง่าย เพราะบริการไม่มีประกันสินค้าให้กับลูกค้า

 

5. Skootar แมสเซ็นเจอร์ส่งเอกสารเบอร์หนึ่ง

Skootar ได้พัฒนาบริการมาเพื่อตอบโจทย์บริการแมสเซ็นเจอร์ในการจัดส่งเอกสาร ดำเนินเอกสาร และส่งพัสดุ (ไม่เกิน 20 กิโลกรัม) สำหรับลูกค้าธุรกิจ SME และคนทั่วไป ถึงแม้เครือข่ายคนขับมอเตอร์ไซค์อาจจะเป็นรองแอพอื่นๆ ในแง่ปริมาณ แต่แอพนี้เน้นจุดแข็งในด้านความชำนาญเรื่องการเดินเอกสารของแมสเซ็นเจอร์ คุณสามารถส่งเอกสารหรือของด่วนเร็วสุดภายใน 45 นาที หรือล่วงหน้าไม่มีกำหนดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล

เพื่อความสะดวกของลูกค้า Skootar มีบริการเสริมอย่างบริการเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง (COD) และดำเนินการเอกสาร (POD) ในส่วนของบริการส่งเอกสาร สามารถตรวจสอบค่าขนส่งและค่าบริการเสริมได้ด้านล่าง

ค่าขนส่งพื้นฐาน
เริ่มต้นที่ 55 บาท (ขั้นต่ำ 65 บาท)
กิโลเมตรที่ 1 ถึง 25 9.5 บาท/กม.
กิโลเมตรที่ 26 ถึง 70 12 บาท/กม.
กิโลเมตรที่ 71 ขึ้นไป 10 บาท/กม.
ค่าบริการเสริม
เดินเอกสาร 15 บาท
เก็บเงิน/เช็คปลายทางนำเข้าบัญชี 40 บาท
เก็บเงินปลายทางนำมาส่งจุดเดิม 50% ของระยะทางไป
นำสินค้า/เอกสาร กลับมาส่งจุดเดิม 50% ของระยะทางไป

 

Skootar ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทหลายเจ้า ทำให้มีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่ใช้บริการของบริษัทนั้น ๆ อยู่ ในส่วนของวิธีการชำระค่าบริการ คุณสามารถชำระด้วยเงินสด บัตรเครดิต การเติมเงินเข้า Wallet พร้อมเพย์ หรือระบบวางบิลสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ

จุดเด่นของ Skootar อยู่ที่ความชำนาญเฉพาะทางในด้านบริการแมสเซ็นเจอร์ เหมาะกับบริษัทที่ต้องการใช้แมสเซ็นเจอร์เป็นประจำ และต้องการส่งเอกสารหลายๆ ที่เพราะ Skootar ให้คุณเพิ่มจุดส่งสูงสุด 10 จุดต่อการจอง และยังมีประกันสินค้าสูงสุด 2,000 บาทให้กับลูกค้า 

จากข้อมูลแอพส่งของทั้ง 5 เจ้า เราเห็นได้ว่าถึงจะให้บริการที่ใกล้เคียงกัน แต่ทุกเจ้ามีจุดเด่นและกลุ่มลูกค้าหรือตลาดที่แตกต่างกัน เราเชื่อว่าทุกบริการได้พัฒนาแอพมาด้วยจุดประสงค์ที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีระบบขนส่งที่ดีขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งของธุรกิจทุกภาพส่วน รวมถึงการให้คนไทยเข้าถึงบริการส่งของด่วนที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด เราหวังว่าข้อมูลเบื่องต้นจะช่วยให้คุณหาแอพส่งของที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. บริการส่งของด่วนในกรุงเทพฯ เจ้าไหนดี

บริการส่งของด่วนในกรุงเทพฯ มีอยู่หลายเจ้า เช่น Deliveree Grab Express Lalamove LINE Man และ Skootar แต่ละเจ้ามีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น หากคุณต้องการส่งเอกสาร ส่งพัสดุ หรือเรียกแมสเซ็นเจอร์ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเน้นความรวดเร็วมากๆ แนะนำให้เลือกบริการส่งของด่วนของ Grab Express หรือ LINE Man เพราะมีเครือข่ายคนขับมอเตอร์ไซค์จำนวนมากรองรับ ในราคาเริ่มต้นเพียง 28 – 55 บาท แต่หากต้องการส่งของชิ้นใหญ่ ส่งของจำนวนมากหรือขนย้ายของด่วน แนะนำให้ใช้บริการส่งของด่วน Deliveree หรือ Lalamove เพราะทั้งสองเจ้ามีรถขนาดใหญ่ เช่น รถกระบะตู้ทึบ โดย Deliveree มีรถ 6 ล้อให้บริการด้วย ช่วยประหยัดค่าขนส่งได้มากกว่า สามารถส่งของได้เยอะในหนึ่งเที่ยว และหากต้องการส่งของด่วนไปต่างจังหวัด Deliveree สามารถส่งได้ภายใน 1 วัน

 

2. แอพส่งของ Deliveree คิดค่าบริการอย่างไร

แอพส่งของ Deliveree คิดค่าบริการขนส่งสองรูปแบบ แบบคิดตามระยะทางขนส่งจริง และแบบเหมารายวัน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามประเภทรถที่เลือกใช้บริการ นอกจากค่าบริการขนส่งพื้นฐาน ที่รวมค่าน้ำมัน ค่าแรงผู้ขับ และค่ารถแล้ว Deliveree ยังมีบริการเสริมต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณจัดการการขนส่งได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกบริการเสริมบนแอปเมื่อเรียกรถได้ทันที

 

3. แอพส่งของ Lalamove คิดค่าบริการอย่างไร

แอพส่งของ Lalamove คิดค่าบริการตามระยะทางขนส่ง จากจุดรับไปยังจุดส่ง แอพส่งของ Lalamove มีบริการเสริมเช่น บริการยกของโดยคนขับ บริการยกของโดยคนขับและผู้ช่วย 1 คนสำหรับ ในราคาเริ่มต้น 100 บาท เรียกแอพส่งของ Lalamove ได้ทุกวัน 24 ชั่วโมง

 

ข้อมูลอ้างอิง:

www.deliveree.com/th/

www.grab.com/th/express/

www.lalamove.com/th-th/

lineman.line.me/

www.skootar.com/th