Your browser does not support JavaScript!

DHL & Tetra Pak ติดตั้งคลังสินค้า Digital Twin แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก

By Editor Logisticsbid - 20 พฤษภาคม 2020

DHL-Tetra-Pak-Warehouse

ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำของโลกอย่าง DHL Supply Chain ประกาศว่า พวกเขาได้ประสบความสำเร็จในการติตตั้งระบบจัดการซัพพลายเชนแบบครบวงจรในคลังสินค้าสิงค์โปร ที่เป็นคลังสินค้าบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์แปรรูปของบริษัทข้ามชาติอย่าง Tetra Pak จากสวีเดน

คลังสินค้าอัจฉริยะแห่งแรกของ DHL ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้มีการนำเทคโนโลยี Digital Twin มาปรับใช้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้แบบจำลองดิจิทัลในการทำความเข้าใจและจัดการสินค้าให้ดีขึ้น

Jerome Gillet ซีอีโอของ DHL Supply Chain สิงค์โปร มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “Tetra Pak เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและบรรจุภัณฑ์ชั้นนำของโลกที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนหลายร้อยล้านคนในมากกว่า 160 ประเทศ และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ของพวกเขาที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและเข้าถึงในทุกที่”

Gillet กล่าวต่อว่า “การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นแนวทางที่ดีสำหรับคลังสินค้าอัจฉริยะในอนาคต เพื่อให้การดำเนินงานของระบบซัพพลายเชนมีความคล่องตัว ประหยัดต้นทุน และสามารถปรับขนาดได้อย่างต่อเนื่อง”

DHL Supply Chain ได้สร้างคลังสินค้าอัจฉริยะให้ Tetra Pak โดยการรวมเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เข้ากับการวิเคราะห์ข้อมูล และเชื่อมโยงกับคลังสินค้าจริงด้วยการนำเสนอแบบเสมือนจริง (virtual) ที่ล้ำสมัย สามารตรวจสอบและจำลองทั้งสถานะและพฤติกรรมของสินค้าในคลังสินค้าได้แบบเรียลไทม์

ผลจากการนำเทคโนโลยี Digital Twin มาใช้ Tetra Pak สามารถประสานงานกับระบบการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและผลผลิต ด้วยข้อมูลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ หัวหน้างานคลังสินค้าสามารถนำข้อมูลนั้นมาช่วยในการตัดสินใจ ปรับปรุงแผนการจัดสรรทรัพยากร ลดความแออัด และทำให้การจัดสรรงานเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การรับรู้เชิงพื้นที่ ได้รับการพัฒนาโดยการนำเซ็นเซอร์ติดตั้งเข้ากับอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุหรือการชนที่อาจเกิดขึ้นได้

การไหลของสินค้าขาเข้าและขาออก ได้รับการสังเกตการณ์จากหอควบคุมของ DHL อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลา ทำให้มั่นใจว่าสินค้าจะถูกจัดวางในชั้นวางอย่างถูกต้องภายใน 30 นาที หลังจากได้รับสินค้า และสินค้าที่เตรียมส่งออก พร้อมจัดส่งภายใน 95 นาที 

Devraj Kumar ผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย ของ Tetra Pak กล่าวว่า “นวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญในสิ่งที่เราทำที่ Tetra Pak เพื่อให้การดำเนินงานของเราพัฒนาไปอย่างราบรื่น การมีคลังสินค้าและระบบซัพพลายเชนที่เกื้อหนุนกันเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองความต้องการจำนวนมากของลูกค้า เรายินดีกับความสำเร็จของคลังสินค้าอัจฉริยะนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับ DHL Supply Chain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงของเราในการดำเนินงานซัพพลายเชนต่อไป”

ลิงก์อ้างอิง: www.logistics-manager.com/dhl-supply-chain-tetra-pak-warehouse-tech-apac/