Deliveree และ Lalamove เป็นบริษัทขนส่งด่วนที่ให้บริการมาอย่างยาวนานในประเทศไทยและมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยทั้งสองบริษัทถือเป็นผู้ให้บริการรายสำคัญในกลุ่มออนดีมานด์โลจิสติกส์ของไทย ที่ครอบคลุมการขนส่งหลายรูปแบบ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ Lalamove กับ Deliveree มีลักษณะบริการที่คล้ายกันคือสามารถขนของได้เต็มพื้นที่ของรถและคิดค่าบริการตามระยะทาง วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ว่าทั้งสองบริษัทมีจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
หัวข้อที่เราจะนำมาวิเคราะห์ในครั้งนี้ครอบคลุม 7 เรื่องหลัก ที่ช่วยให้ตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ตรงตามความต้องการทั้งในเชิงธุรกิจและการขนส่งทั่วไป
โครงสร้างราคาของบริษัท Deliveree และ Lalamove มีความคล้ายกัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก คือคิดราคาตามระยะทาง และแบบเหมา โดยแบบเหมาของ Deliveree จะแบ่งเป็นเหมาเต็มวัน 9 ชม.สำหรับกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และ 8 ชม. สำหรับจังหวัดอื่นๆ กับราคาเหมาสำหรับการขนส่งระหว่างจังหวัดในบางจังหวัด ซึ่งมีความแตกต่างกับ Lalamove เล็กน้อยเพราะสามารถเรียกลาล่ามูฟขนของได้ทั้งแบบครึ่งวัน 4 ชม. และหากต้องการใช้รถลาล่ามูฟขนของนานขึ้น สามารถเพิ่มเวลาอีก 5 ชม. รวมเป็น 9 ชม. โดยเมื่อเปรียบเทียบแล้วทั้งสองบริษัทมีราคาที่ใกล้เคียงกัน
หากเปรียบเทียบกันตามประเภทรถที่ให้บริการ บริษัท Deliveree มีประเภทรถมากกว่า โดยมีถึง 8 ประเภท ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ รถอีโคคาร์ รถปิคอัพ รถกระบะตู้ทึบ รถเย็น รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ และรถเทรลเลอร์ ในขณะที่ Lalamove มี 5 ประเภท* คือรถมอเตอร์ไซค์ รถอีโคคาร์ รถกระบะ กระบะตู้ทึบ และรถ 4 ล้อจัมโบ้ ดังนั้นในแง่ของความครอบคลุมขนาดของการขนส่ง บริษัท Deliveree ให้บริการที่ครอบคลุมกว่า รองรับการขนส่งได้หลากหลายกว่า อาจตอบโจทย์สำหรับธุรกิจที่ต้องส่งสินค้าจำนวนมาก หรือการขนส่งของขนาดใหญ่ได้มากกว่า ในขณะที่ Lalamove เน้นการขนส่งขนาดเล็ก – กลาง
*Lalamove แยกประเภทรถอีโคคาร์ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ รถเก๋ง 4 ประตู รถ 5 ประตู และรถยนต์อเนกประสงค์ ซึ่ง Deliveree รวมประเภทรถเหล่านี้รวมถึงรถกระบะ 4 ประตูไว้ด้วยกันภายใต้ประเภทรถ “อีโคคาร์” ซึ่งสามารถระบุเพิ่มเติมในหน้าที่ 2 ของการจองรถ เราจึงรวมประเภทรถเหล่านี้เป็น 1 ประเภท เช่นเดียวกับรถกระบะและรถกระบะโครงเหล็กสูง Deliveree รวมรถทั้งสองประเภทนี้ไว้ภายใต้ “ปิคอัพ” และสามารถระบุเพิ่มเติมในหน้าที่ 2 ของการจองรถเช่นกัน เราจึงรวมประเภทรถนี้เป็น 1 ประเภท
Deliveree มีพื้นที่ให้บริการมากกว่า Lalamove โดยสามารถเรียกรถ Deliveree ให้เข้ารับของได้ใน 23 จังหวัด ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ และสามารถส่งของไปยังทุกจังหวัดทั่วไทย ในขณะที่สามารถเรียกลาล่ามูฟได้เฉพาะในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และชลบุรีเท่านั้น และส่งของไปได้ทุกจังหวัดยกเว้นสามจังหวัดชายแดนใต้
Lalamove กับ Deliveree มีรูปแบบบริการและฟีเจอร์ที่คล้ายกัน เช่น การจองรถแบบด่วนหรือจองล่วงหน้า การเหมารถรายวัน การเพิ่มจุดส่งของ บริการเพิ่มผู้ช่วยยกของ แต่ลาล่ามูฟทำได้มากกว่าในบางเรื่อง เช่น สามารถให้ลาล่ามูฟขนของได้ถึง 20 จุดใน 1 ออเดอร์ ในขณะที่เดลิเวอรีเพิ่มได้สูงสุด 15 จุด นอกจากนี้ยังสามารถจองรถลาล่ามูฟขนของล่วงหน้าถึง 30 วัน ในขณะที่เดลิเวอรีจองล่วงหน้าได้สูงสุด 14 วัน
การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การใช้บริการสะดวกยิ่งขึ้น และในบางครั้งก็ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ได้ เช่น การมีโปรโมชั่น ส่วนลด และการสะสมคะแนนจากผู้ให้บริการทางการเงินเจ้าต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ Deliveree ทำได้ดี เพราะสามารถเลือกชำระเงินได้ถึง 6 ช่องทาง ได้แก่ เงินสด เติมเงินเข้า wallet ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง บัตรเดบิต บัตรเครดิต TrueMoney และ LINE Pay ปัจจุบัน Lalamove ยังไม่ครอบคลุมการชำระเงินผ่าน TrueMoney และ LINE Pay
ทั้ง Lalamove และ Deliveree มีประกันสินค้าให้ฟรีในทุกการขนส่ง ซึ่งแบ่งเป็นวงเงินประกันสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าธุรกิจ โดยวงเงินประกันสินค้ามีความแตกต่างกันดังนี้
ลูกค้าทั่วไป
ลูกค้าธุรกิจ สูงสุด 750,000 บาท
ลูกค้าทั่วไป
ลูกค้าธุรกิจ
วิธีการใช้บริการของ Lalamove กับ Deliveree มี 2 ช่องทางเหมือนกัน คือสามารถเรียกลาล่ามูฟและเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชันและเว็บแอปได้ตลอด 24 ชม. โดยการใช้งานค่อนข้างง่าย เพียงเลือกประเภทรถ เลือกวันและเวลาที่ต้องการส่ง ระบุจุดรับ-ส่งของ และบริการเสริมตามต้องการ ซึ่งข้อได้เปรียบหนึ่งอย่างของ Deliveree ในขั้นตอนนี้คือเมื่อเราระบุข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วระบบจะแสดงราคา ระยะทาง และระยะเวลาในการขนส่งให้ทราบทันที ซึ่งปัจจุบัน Lalamove จะแสดงเฉพาะราคาเท่านั้น
หากพิจารณาโดยภาพรวม Deliveree มีคะแนนที่สูงกว่าในหลายด้าน แต่ทั้งนี้ผู้ใช้บริการควรเลือกตามความเหมาะสมของการขนส่ง เพราะทั้งสองบริษัทมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สามารถทดลองใช้บริการ Deliveree และ Lalamove โดยดาวน์โหลดแอปได้ทั้งใน Google Play และ App Store หรือใช้งานผ่านเว็บแอปที่ https://www.deliveree.com/th/ และ https://www.lalamove.com/th-th/